กระจกสามารถแบ่งตามวัสดุได้เป็นกระจกอะคริลิก กระจกอลูมิเนียม กระจกสีเงิน และกระจกที่ไม่ใช่ทองแดง
กระจกอะคริลิกซึ่งมีแผ่นฐานทำจาก PMMA เรียกว่าเอฟเฟกต์กระจกหลังจากแผ่นฐานชุบด้วยไฟฟ้าเกรดออปติคัลได้รับการเคลือบสูญญากาศ เลนส์พลาสติกใช้แทนเลนส์แก้ว ซึ่งมีข้อดีคือน้ำหนักเบา ไม่แตกหักง่าย ขึ้นรูปและแปรรูปได้สะดวก และลงสีได้ง่าย โดยทั่วไปสามารถผลิตได้หลายแบบ เช่น กระจกหน้าเดียว กระจกสองหน้า กระจกติดกาว กระจกติดกระดาษ กระจกกึ่งเลนส์ ฯลฯ ซึ่งสามารถผลิตได้ตามความต้องการที่แตกต่างกัน ข้อเสีย: ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและความต้านทานการกัดกร่อนต่ำ กระจกอะคริลิกมีข้อบกพร่องที่สำคัญคือ กัดกร่อนได้ง่าย เมื่อสัมผัสกับน้ำมันและเกลือ จะกัดกร่อนและบิดเบี้ยวเมื่อโดนแสงแดด
เนื่องจากชั้นอลูมิเนียมเกิดออกซิเดชันได้ง่าย พื้นผิวกระจกจึงมีสีเข้ม และชั้นอลูมิเนียมไม่แนบสนิทกับกระจก หากรอยต่อขอบไม่แน่น น้ำจะซึมผ่านช่องว่าง และชั้นอลูมิเนียมจะลอกออกเมื่อน้ำซึมผ่าน พื้นผิวกระจกจึงเสียรูปง่าย อายุการใช้งานและราคายังต่ำกว่ากระจกสีเงินอีกด้วย
กระจกสีเงินมีพื้นผิวที่มันวาว มีความหนาแน่นของปรอทสูง ติดตั้งเข้ากับกระจกได้ง่าย ไม่เปียกน้ำง่าย และสามารถใช้งานได้ยาวนาน ดังนั้นกระจกกันน้ำส่วนใหญ่ที่ขายในท้องตลาดจึงเป็นกระจกสีเงิน
กระจกที่ปราศจากทองแดงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากระจกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังชื่อที่บ่งบอก กระจกชนิดนี้ปราศจากทองแดงโดยสิ้นเชิง เป็นฟิล์มป้องกันแบบพาสซีเวชันหนาแน่นบนชั้นเงิน ซึ่งป้องกันชั้นเงินจากรอยขีดข่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนาน ประกอบด้วยพื้นผิวกระจก ด้านหนึ่งของพื้นผิวกระจกเคลือบด้วยชั้นเงินและชั้นสี โดยมีชั้นฟิล์มพาสซีเวชันวางอยู่ระหว่างชั้นเงินและชั้นสี ฟิล์มสารพาสซีเวชันนี้เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาการทำให้เป็นกลางของสารละลายเกลือกรดและเกลือด่างในน้ำบนพื้นผิวของชั้นเงิน ชั้นสีประกอบด้วยไพรเมอร์ที่ทาลงบนฟิล์มสารพาสซีเวชันและท็อปโค้ทที่ทาลงบนไพรเมอร์
กระจกสามารถแบ่งตามขอบเขตการใช้งานได้เป็น กระจกห้องน้ำ กระจกเครื่องสำอาง กระจกส่องตัวเต็มตัว กระจกตกแต่ง กระจกโฆษณา กระจกตกแต่งเสริม ฯลฯ



เวลาโพสต์: 17 ม.ค. 2566